ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก มิถุนายน, 2547

ไอๆ... (ไม่ใช่ ไอเลิฟยู)

เมื่อเช้านอนตอนตี 4 หลับไม่ดีเลย ไอตลอดเซ็งจริงๆ ตอนแรกก็จะหายแล้วแหละเมื่อวานไปกินกาแฟเย็นมา แถมด้วยโรตีหวานๆ ไอใหญ่ แคร๊กๆๆ ตอนแรกกะว่าพรุ่งนี้จะไป บริจาคเลือดตามกำหนดการ 3 เดือนครั้ง พอดียังไม่ว่างกันอีก ไม่สบายด้วยเลยเลื่อนไปก่อน build kernel มาสองสามวันกว่าจะผ่าน... ยังไม่ลองหลายๆ เครื่องเลย

Blog คุณหน่อย...

เข้าไปอ่าน blog พี่หน่อย เจอคำถ้อยคำ โดนใจหลายถ้อยคำเหมือนกัน .... “คนเราสามารถที่จะรักใครได้มากกว่าหนึ่ง แต่จะมีเพียงหนึ่งเท่านั้นที่เราจะรักได้จนตลอดชีวิต” อ่านทั้งหมดได้ที่ http://noistuff.blogspot.com/2004/06/blog-post_27.html อืมม อาจเป็นไปได้ว่าเมื่อก่อนเราก็แค่ส่วนหนึ่ง แต่ไม่ใช่ ส่วนของชีวิตเธอทั้งชีวิต.....

เก็บตัว...

ถามว่าพื้นฐานแล้วคนเรารู้หรือเปล่าว่าอะไรเป็นอะไร ตอบว่ารู้ แต่พอเหตุการณ์มันเกิดกับตัวเอง สิ่งที่เคยรับรู้มันยากที่จะรับได้ มันยากจริงๆ ถามว่ารู้หรือเปล่าว่าการจมอยู่กับความทุกข์มันไม่ได้ประโยชน์ ตอบว่ารู้ แต่มันยังค้างคาใจอยู่หลายเรื่อง ถามว่าอยากคิดมากหรือเปล่า ตอบว่าไม่อยาก มันทำให้อะไรๆ ต่างๆ แย่ลง แต่มันยังห้ามใจในตอนนี้ไม่ได้จริงๆ อยากหนีไปให้ไกลๆ สักพักแต่ยังทำไม่ได้เลยต้องจำทนกับความปวดร้าว ความเจ็บปวดที่แสนโง่เขลา .... เธอจะหนีปัญหา ไปนานแค่ไหน...

ไปรัชโยธิน.....

วันนี้นัดว่าจะไปหาอะไรกินกับน้องๆ กินไปคุยไป น้องที่ว่าก็คือ สิต (itga) ซึ่งเคยทำงานด้วยกันและรู้จักกันมานานตั้งแต่สมัยเรียน เมื่อก่อนก็เคยปลอบตอนหวานใจเขาบอกเลิกเหมือนกัน มาวันนี้สลับกันฮ่าๆ ออ มีน้องอีกคนยังไม่เคยเจอ ชื่อส้ม ดูท่าทางน่าจะซนน่าดู เป็นเพื่อนกับสิต ก็นัดเจอกันสามคน ไม่รู้ว่าเราไปกวนเขาหรือเปล่าเนี๊ยะ แต่อาสาเป็นเจ้ามือแล้วยังไงก็ต้องไป ยังไออยู่แต่เจ็บคอน้อยลง กินทั้งไอติม น้ำแข็งสารพัด เดี๊ยวก็หาย วันนี้ไปกินไรดีหว่า.... ตื่นมาปวดหัวจัง.... ยังคิดเหมือนเดิม บ้าจริงๆ

ทำใม....

ผมเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวกับคนสองคน เกี่ยวกับคำถามที่มีต่อกัน "ทำใม ?" ถ้าคู่ไหนมีคำถามแบบนี้ซ้ำแล้วซ้ำอีก ย่อมแสดงให้เห็นถึงความไม่ไว้ใจกัน แสดงถึงการน้อยซึ่งเหตุผล มาวันนี้คำว่าทำใมมันวนเวียนอยู่ในสมอง มันถามตอกย้ำ อยู่แบบนี้ เวลาตลอดทั้งชีวิตการทำงาน ทุ่มเทให้กับงาน ทุ่มเทจนไม่มีเวลาให้กับความเป็นส่วนตัว มาวันนี้มันทำให้สิ่งที่เคยเป็นเปลี่ยนไป มันไม่มีอะไรดีขึ้น ...... ทำใม ? แสดงว่าผมยังต้องหาคำตอบให้กับชีวิตไปนาน

ตึกใหม่.....

ตอนสายๆ โดนเกณฑ์ไปรับเสด็จสมเด็จพระเทพฯ ตอนลงไปเป็นฤดูร้อน แดดจ้าเชียว ถ้าร้อนนานอีกหน่อยมีสิทธิ์วืดได้ ยืนรอพร้อมจัดแถวไปถึงตึก MTEC โน้นแนะ ข้ามถิ่นไปสองตึกเลยจัดแถวยืนห่างๆ กันเพราะคนน้อยตอนแรกกางแขนออก ก็ยังไม่เต็ม ตอนหลังเลยเอา 4 ช่วงแขน ยืนรอสักพักก็เปลี่ยนฤดูกลายเป็นฤดูฝน ฝนลงเม็ดมาพรำๆ ซ้ำเติมหวัดก็ยังไม่หาย จะวิ่งก็ไม่ได้ มันตกไม่หนักเท่าไหร่นัก รับเสด็จเสร็จก็ขึ้นมาทำงานต่อ รอ อ.วิภัทธ มาเยี่ยมด้วย ก็ได้คุยกัน แลกเปลี่ยนในเรื่องเทคนิค ตอนเที่ยงได้กาแฟหอมกรุ่น free ไปอีกคนละแก้ว อ.วิภัทธ เป็นเจ้ามือ :) ตอนสี่โมงชวน หิน กับ อ้อ ไปเดินดูงาน การประชุมประจำปี สวทช. Nanotechnology : the Challenge for Thailand ที่ตึกเพิ่งสร้างใหม่ เมื่อสองสามวันยังสร้างอยู่เลยวันนี้เสร็จแล้ว โคตรหรู เหมือนคนละโลกกะตึก NECTEC เลย วันหลังคงจัดงานแถวนี้ สบายๆ ขอตัวไปไอต่อ...แค๊กๆๆ

เส้นขนาน.....

ยังเจ็บคอไม่หายเจ็บมากขึ้นด้วยแฮะ ไอแล้วรำคาญไม่ชอบเลย .... นั่งฟังเพลง เส้นขนาน ของ Bomp มาหลายรอบแล้ว ความหมายก็โอเค ฟังแล้วฟังอีก ทำให้นึกถึงเส้นตรงสองเส้น มันสามารถเป็นไปได้กี่แบบ ? 1. ออกจากจุดเดียวกันห่างกันออกไปเรื่อยๆ จนไม่สามารถเจอกันอีกต่อไป 2. มากจากที่แสนไกล วิ่งเข้าหากัน 2.1 หยุดตรงจุดเดียวกัน 2.2 เจอกันตรงจุดหนึ่ง แล้วห่างกันออกไปเหมือนข้อ 1 3. เส้นขนาน เส้นขนานไม่มีโอกาสได้่เจอและสัมผัสกัน แต่ยังเห็นกันตลอดไป อยากเป็นแบบไหนดี ?

ง่วง...ไม่หลับ

เมื่อกี้หลบไปนอนเพราะเพลียมาก นอนไม่หลับ ปวดหัวเข้าไปใหญ่ เป็นอะไรไปละเนี๊ยะ .... อยากนอนจริงๆ นะ เวรกรรมอะไรกันนักหนา .....

Thailand LinuxExpo 2004

เช้านี้... ผมยังตื่นขึ้นมาตามปกติ นอนดูนาฬิกาบนหน้าปัดมือถือ ... เผลองีบไปเหมือนกับนานแสนนาน แต่จริงๆ แล้วแค่ 5 นาทีเอง ต่างกับเมื่อก่อน เผลอกลับไปแป๊บเดียวแต่ตื่นมาโห ตั้งชั่วโมง คิดดูช่วงนี้นอนเพราะจำเป็นต้องนอน ข่มกว่าจะหลับช่างทรมาร หลับนิดหน่อยก็เหมือนหลับมานานเลยตื่นแต่เช้า บ้างก็ตีสาม ตีสี่ ก็หวังไว้เวลาจะทำให้เราเข้าใจอะไรดีขึ้น สิ่งที่เรามองว่าสวยงามมาตลอดอาจเป็นภาพลวงตา .... ผมจะรับได้หรือเปล่า วันนี้ต้องเดินทางไปงาน Thailand LinuxExpo 2004 ที่ตึก UN (สหประชาซาติ) ตลอดทั้งวัน ต้องบรรยายในช่วงเช้าที่ บูธ ประมาณ ชั่วโมงหนึ่ง รู้สึกเจ็บคอมากขึ้น หลังจากเมื่อวานกลับไปเจ็บคอบ้าง มีน้ำมูก วันนี้น้ำมูกหายไป เหลือร่องรอยของความเจ็บช้ำในลำคอ แต่ก็ยังคงดื่มน้ำเย็น กินน้ำแข็ง อยู่ปกติไม่ถืออยู่แล้วครับ เป็นเองได้ก็หายเองได้ มันคงไม่ตายง่ายๆ ปกติออกงานออกบูธมันก็เหนื่อยเป็นธรรมดาอยู่แล้วแต่วันนี้รู้สึกเหนื่อยผิดปกติ ปวดหัว ไม่สบาย เจ็บคอ รุมเร้าเข้ามาพร้อมๆ กัน แต่ก็ยังคงทำหน้าที่จนจบทั้งวัน.. บริเวณงานก็ไม่ใหญ่โตมากนัก มีบูธของบริษัทต่างๆ มาออกร้านกัน อยากทำบัตรสมาร์ทการ์ด แต่ต้อง

Go to UN

นั่งๆ อยู่ก็ต้องเดินทางไปตึก UN (สหประชาชาติ) งาน Thailand LinuxExpo แบบกะทันหัน จริงๆ ผมมีหน้าที่ต้องไปในวันพรุ่งนี้ ต้องเอาของไปให้ที่งาน กะว่าเดินดูสักนิดแล้วกลับเลย แต่ฟ้าไม่เป็นใจครับโดนโยนไมโครโฟนให้โดยไม่ทันตั้งตัว ไม่ได้เตรียมเนื้อหา สคริปต์ มาล่วงหน้า ทั้งยังเป็นหวัดเจ็บคอ ท่าทางจะไอด้วย แต่ไหนๆ ก็ ไหนๆ แล้วน้องพริ้ตตี้ ทำตาหวานเข้าหน่อยเป็นใจอ่อนขึ้นพูดไปซะครึ่งชั่วโมง ออ ก่อนหน้าผมพูด น้องพริ้ตตี้ เล่นเกมคนมายืนชมเยอะมาก แต่พอผมขึ้นไปคนหลายเกลี้ยง สงสัยหน้าตาหล่อเกินไป (โทรมไปหน่อย หนวดเคราก็ไม่ได้ถางไป) พูดเสร็จเสียงหายไปอีก น้ำมูกเริ่มออกมาสูดอากาศรำคาญจริงๆ ..... พรุ่งนี้ต้องไปจริงๆ คนจะเยอะเหมือนวันนี้หรือเปล่ายังไม่รู้เลย แต่วันนี้คนเยอะกว่างาน Linux Empowerment เยอะ ก็ดีครับ ตอบปัญหากันเสียงแหบเสียงแห้ง.... ตอนนี้ไม่มีกล้องส่วนตัวเลยไม่ได้เก็บรูปงานมาฝาก เดี๊ยวจะหาจากกล้องคนอื่นมาฝากครับ....

วัฏจักร....

ตั้งแต่เมื่อวานนี้แล้วที่ได้หวนเข้าสู่วัฏจักรเก่าๆ การได้อยู่คนเดียว... ทำงาน กลับบ้าน ไม่มีเสียงที่เคยเป็นกำลังใจอย่างเคยรู้สึกแปลกและเหงาจับใจ อีกฝากฝั่งหนึ่งของชีวิตที่ได้กลับมาเป็นอีกครั้ง ความรู้สึกที่ต้องยอมรับ ความรู้สึกที่ยากจะบรรยาย วันนี้ตื่น มาตอนเช้า นอนรอเสียงโทรศัพท์อย่างเคย...แต่นึกขึ้นได้ว่ามันไม่มีแบบนั้นแล้ว เศร้าแต่ก็ต้องเดินต่อไป อาการหวัดยังคงมีอยู่ เริ่มมีน้ำมูกมากขึ้นแล้วละ นานๆ จะเป็นหวัดสักครั้ง นานมากแล้วที่ไม่เป็นอะไร นอกจากอาการปวดหัว ปวดท้องที่เป็นอยู่ประจำ ร่างกายชักอ่อนแอ .... ไม่หิว ไม่ง่วง ไม่เคยเป็นมาก่อน นอนหลับๆ ตื่นๆ เผลอมองแต่โทรศัพท์ อาการชักไม่ดีเมื่อไหร่จะหายสักที นี่แค่สองวันเอง แต่มันยาวนานมาก ความคิดมุมมืด กับความคิดมุมสว่าง ต่อสู้กันบนตัวตนของคนทุกคน ไม่พ้นแม้่แต่ตัวผมเอง วันใดความคิดมุมมืดเอาชนะได้ วันนั้นจะเป็นอย่างไร ตัวเรา คนรอบข้าง... ความรู้สึก ความผูกพันจะเหมือนเดิมกันไหม ก็หวังให้รับรู้และเข้าใจ รับฉันให้ได้นะคนดี....

อภัย....

การให้อภัยสำหรับผมเป็นการให้ที่ยิ่งใหญ่ ยิ่งกับคนสำคัญไม่ว่าจะเป็นญาติพี่น้อง หรือคนพิเศษ การให้อภัยสำหรับกับคนที่รู้ว่าเขาทำผิด และจะไม่ทำมันอีก คนยอมปรับปรุงตัวเองได้เสมอ เมื่อเรายังมีความรู้สึกดีต่อกันเราควรหยุดคิดมองในแง่มุมที่ดีๆ อย่าให้ความโกรธ หรือความลุ่มหลงมันบังตาจนทำให้สิ่งดีๆ มันเลือนหลายไป ทำลายเยื่อใย ทำลายมิตรใมตรี สิ่งที่ดีที่สุดสำหรับผมแล้วมันไม่ใช่สิ่งของที่จะหยิบฉวยได้ตามท้องถนน การตัดสินคนเพียงเสี้ยววินาที มันอาจทำร้ายใครต่อใครอีกหลายคน หรือแม้กระทั้งตัวเราเอง ความดื้อดึง หยิ่ง ถือทิฐิ ถึงแม้มันทำให้เราดูแข็มแข็งในวันนี้ แต่วันข้างหน้าผมเข้าใจว่าไม่ต้องเดาว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ผมก็ได้แต่ภาวนาว่าอย่าให้มันเกิดสิ่งเลวร้ายขึ้นอีกกับใคร ทำได้แค่เป็นห่วง และถามถึง อย่าให้เธอรู้เลยว่าผมเป็นอย่างไร .... จากที่สุดสู่ค่าศูนย์ สูญศักดิ์ ....

ความจริง....

สุดจะรั้ง.. มันคือความจริงสำหรับคนที่ไม่เหลือความรักให้กัน วันเวลามันพิสูจน์อะไรๆ หลายๆ อย่าง พิสูจน์ตัวเราว่าไม่เหมาะสมสำหรับเขา พิสูจน์ ความรัก ว่ามันไม่มีอยู่จริง รักแท้ไม่มีในโลก ความรักมันไม่ใช่สิ่งสวยงามเลยสักนิด วันนี้มันจบสิ้นแล้ว มันไม่มีอะไรให้เราต้องทุ่มเทอีกต่อไป ค่ำคืนที่ผ่านไป ขอให้มันผ่านเลย คงบอกตัวเองได้แค่นี้ บอกได้แค่ว่ามันไม่ใช่ที่ผ่านมาเราหลอกตัวเองกันมาตลอด วันนี้เขาเจอคนที่เขาต้องการแล้ว....

Unbalance of life

นานถึงครึ่งเดือนแล้วที่ไม่ได้เข้ามาเขียน blog เวลามันรวดเร็วเสียจริงๆ จากวันสู่วัน จากคืนสู่คืน ความทุกข์ ความสุข แวะเข้ามาเยี่ยมเยียนแล้วจากไป เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ฝากไว้แต่รอยจารึกแห่งความทรงจำ จำสั้น จำนาน จำจนตาย! มันล้วนขึ้นกับตัวเราทั้งสิ้น เฝ้าคิดวนเวียน ทบทวน ย้ำคิด ย้ำทำ เจ็บแล้ว เจ็บอีก มันไม่มีเขตสิ้นสุด ในเมื่อเรายังปล่อยให้ตัวเราเดินตามกฏแห่งธรรมชาติ กฏแห่งความคิดของคน กิเลส รัก โลภ โกรธ และ หลง มันมอมเมาให้ล่มหลง คนที่จิตใจอ่อน ประมาท ย่อมตกเป็นทาส เราเคยได้รับการสอนมาหลายต่อหลายรูปแบบ มีสิ่งหนึ่งที่ได้รับบ่อยๆ คือ "ให้ทำในสิ่งที่คิดว่าดีและถูกต้อง" และย้ำนักย้ำหนาว่า "จะต้องไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน" เราคิดว่าสิ่งที่เราทำสิ่งที่เราทุ่มเทมันมีคุณค่า มันเป็นสิ่งที่ถูกต้อง มันไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน แต่อยู่มาวันหนึ่งมีคนบอกว่าทำใมต้องทำแบบนี้ทำใมเป็นแบบนี้ เป็นแบบนี้ไม่ได้นะ มันไม่ถูกต้อง มันกำลังทำให้บางคนเจ็บ มันทำร้ายใครบางคนอยู่ ความสับสน ความกังวนแวะเวียนเข้ามา เข้าสู่วัฎจักรแห่งความทุกข์ คิดทบทวนย้อนไป พบว่าเราทุ่มเทเวลากว่าค่อนแห่งความเป็นส่วนตั