ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

แนวคิด "ตะเกียบ"

สองสามวันก่อนได้ไปทานข้าวที่บ้านคุณกำธร ระหว่างนั่งทานมื้อเช้ากันได้พูดถึงตะเกียบกัน เลยมีความคิดแว๊บเข้ามาในสมองในชั่วขณะ จับใจความได้ว่า ปกติคนไทยเราใช้ช้อนในการรับประทานอาหาร ซึ่งจะใช้มือข้างที่ถนัดในการจับถือ แต่เนื่องด้วยไทยเราได้รับเอาวัฒธรรมการรับประทานอาหารมาจากหลายที่หลายชาติพันธุ์ด้วยกัน ทำให้มีอุปกรณ์เพิ่มเข้ามา อย่างเช่น ตะเกียบเป็นต้น สิ่งที่ให้ข้อคิดผมคือ ผมสามารถที่จะเปลี่ยนจากจับช้อนด้วยมือถนัดของผมไปเป็นตะเกียบได้อย่างไม่ขัดเขิน..... พอจะนึกออกไหมครับว่าผมจะโยงเข้าเรื่องอะไร ? ครับคงหนีไม่พ้นกับ การใช้ OS ปกติเราใช้ M$ กันแต่หลายคนใช้แบบไม่ถูกต้องนักถ้าเราปรับเปลี่ยนมาให้มันถูกต้อง หรือหลีกเลี่ยงการกะทำเช่นนั้นแล้วหันมาใช้ตะเกียบแทนก็คงดีใช่น้อย ........ บ่น หลายวันมานี้รู้สึกอึดอัดนิดหน่อยเพราะทำอะไรไม่ค่อยจะ freedom สักเท่าไหร่ ในการใช้งานเครือข่าย เพราะโดนจัดระเบียบสังคมกันใหม่อะไรที่ไม่จำเป็นก็ปิดๆ มันไปซะ อะไรที่มากๆ กะจำกัดมันซะหน่อย อืมมก้ดีนะถ้าทำแล้วมันเท่าเทียมกันจริงๆ ไอ้ที่เค้าเห็นว่ามันไร้สามารถแต่ผมกลับมองว่ามันยังมีประโยชน์ อันที่เค้ากลัวว่ามันมีอันตรายผมกลับมากว่าเราคุมมันได้ถ้าเก๋าจริง ไม่ใช่สู้ไม่ได้แล้วชักปืนขู่ สู้ไม่ได้ก็ไปซ้อมให้กล้ามเป็นมัดๆ สิ ........ ปัญหาที่ผมมองว่ามันสำคัญและองค์กรระดับชาติควรทำคือการทำให้ทำให้อะไรๆ มันสะอาด สะอาดจริงๆ ไม่ใช่เฉพาะภาพพจน์ องค์กรที่ควรเป็นแบบอย่างในหลายๆ เรื่องกลับไม่ทำ ไปทำอะไรที่มันไร้สาระยังไงไม่รุ๊

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อิไซกูนิ...

บทเพลงท้องถิ่นอีกเพลงที่ฟังแล้วให้ความหมายดีอีกเพลงที่ผมชอบคือเพลง "อิไซกูนิ" อย่าเพิ่งนึกว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นนะครับ มันเป็นภาษาใต้ บ้านผมเองแฮะๆ แปลง่ายๆ ว่า "จะทำใมฉันละ" ประมาณว่าเรื่องของฉันอย่ามายุ่ง.. เนื้อร้องบางคำผมก็ให้ความหมายไม่ถูกเหมือนกันไม่แน่ใจว่าเป็นสร้อยหรือเป็นคำพูดจริงๆ เพราะท้องถิ่นใต้แต่ละที่พูดไม่เหมือนกัน... ลองอ่านเนื้อร้องข้างล่างดูครับ บทเพลง อิไซกูนิ.... ศิลปิน ด้ามขวาน จบละปริญญาโท โอ้โฮ.. ยังไม่มีสามี จบละปริญญาตรี มีลูกสามสี่คน มันเกี่ยวอะไหรละไอ้พวกจากัวมีผัวหม้ายผัว เรื่องส่วนตัวกู จบตรีจบโท ก็มีความรู้ใช่หนักหัวสูไอ้พวกเสือกเมือง จบปริญญาโทร โอ้โฮ.. ได้ทำงานดีๆ จบปริญญาตรีไม่เป็นกะหรี่แน่นอน มันเกี่ยวอะไหรละไอ้พวกหัวอี กระหรี่หม้ายหรี่ศักดิ์ศรีของกู จบตรีจบโทก็มีความรู้ ใช่หนักหัวสูไอ้พวกเสือกเมือง เอาได้เรียนเป็นหลัก ไอ้หย๊ะ... เรื่องรักไม่เคยรู้สึก อ่านๆ เขียนๆ ดึกๆ อะดึก อึดื่น คนไม่กล้าทัก... มันเกี่ยวอะไรอ๊ะไอ้ะพวกจันทร์หวัน วันแต่ละวันมันไม่ทำไหร เรื่องของชาวบ้านมาจุ้นจ้านทำใม เรื่องของหัวใจ อิไซกูนิ จบละปริญญาโท โอ้โฮ.. ยังไม่

สุดยอดชาตินิยม..

วันนี้วันแรกนั่งฟังสัมนา คนจีนทั้งหมดที่ขึ้นพูดพูดจีนหมดเลยอะ slides ก็จีนโอ้วพระเจ้า ต้องเสียบหูฟังตลอด.. คนดำเนินรายการก็จีนตลอดงาน.. บ้านเรามีงานที่ต้องพูดอังกฤษกันใหญ่ ฮ่า ๆ น่าเอาแบบบ้างเน๊อะ... อาหารจีนนี่ทำไมมันจืดจังหว่า.. เราว่ากินไม่เลิอกแล้วนายังยอมแพ้เลยเนี๊ยะ

ผีเสื้อกับดอกไม้...

เป็นอีกเพลงที่ฟังแล้วชอบมาก..ความหมายมันดีนะ ไม่รู้จะหาฟังกันได้ไหม ผมมีให้แต่เนื้อร้อง... บทเพลง: ผีเสื้อกับดอกไม้ ศิลปิน: เคียส ซ้ำจนแทบจะตายก็ยังมิวายจะหลาบจำ ถูกคนเขาทำใจดำออกอย่างนั้น ยังเชื่อคำยังเชื่อใจยังไม่จำ ก็ใจมันดื้อดึงมันขัดขืนอยู่ร่ำไป ก็ใจมันอ่อนไหว อ่อนแอเมื่อพบเจอ ผีเสื้อตัวน้อย ล่องลอยอยู่ในฝัน ชื่นชมกับความหวาน และสีสันสวยงาม โดยไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีพิษ โดยไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีภัย ร้องเธอเธอร้องไป ในเมื่อหัวใจมันโง่เอง ปล่อยน้ำตาไหลละเลง เป็นบทเพลงแห่งความเขลา เพื่อตอกย้ำให้กับใจยังไม่จำ ก็ใจมันเลอะเลือน ด้วยรักเพราะงมงาย จิตใจจึงวุ่นวายอ่อนแอไร้เหตุผล ผีเสื้อตัวน้อย ล่องลอยอยู่ในฝัน สักวันจะหล่นลง ปีกคงจะร่วงโรย ผีเสื้อตัวน้อย ล่องลอยติดตามฝัน สักวันจะหล่นดิน สูญสิ้นทั้งวิญญา โดยไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีพิษ โดยไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีภัย เจ้าไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีพิษ เจ้าไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีภัย ก็ใจมันเลอะเลือน ด้วยรักเพราะงมงาย จิตใจจึงวุ่นวายอ่อนแอไร้เหตุผล ผีเสื้อตัวน้อย ล่องลอยอยู่ในฝัน สักวันจะหล่นลง ปีกคงจะร่วงโรย ผีเสื้อตัวน้อย ล่องลอยติดตามฝัน สักวันจะหล่นดิน