ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

People

ความฝันอยากหนึ่งของผมตั้งแต่แรกเข้ามาทำงานที่นี้คือ อยากเห็นการร่วมกันพัฒนาของคนไทย แม้จะเป็นจุดเล็กๆ ต่อไปเมื่อกล้าแกร่งเราก็จะมีบทบาทบนสังคมโลกได้ หยุดก่อนท่านผู้กล้าทั้งหลาย ใช่เราจะรวมตัวกันแค่นี้ จุดมุ่งหมายคือเวทีโลก นั้นคือขอให้เวที OpenTLE.Org เป็นเวทีประลองเพื่อลับฝีมือของท่านทั้งหลายให้แข็งแกร่ง ซึ่งผลที่ได้ก็จะส่งไปยังต้นน้ำต่างๆ ไม่ช้าก็เร็ว แต่ผลเบื้องต้นที่ได้จะตกแก่พี่น้องคนไทยทุกคน... หลังจากที่คุยกันมานานภายในทีมว่าเราจะผลักดันให้เกิดการพัฒนาร่วมกันมากขึ้น โดยจะจัดตั้งแหล่งที่เก็บให้กับ Contributors ที่สนใจในการพัฒนา หรือ จัดทำ Packages (หวังว่าจะมี Patch มาด้วย) มาวันนี้พี่กำธรซึ่งเป็นหัวหน้าอันดับใกล้ที่สุดได้ให้ไฟเขียว (เหลืองหรือเปล่าอะ ? แต่ถือว่าเขียวนะ) มาวันนี้เลยจัดตั้ง people ซะเลยช้าไปจะไม่ได้การ การร่วมกันพัฒนาในครั้งนี้จะมีสองส่วนคือ 1. http://blog.opentle.org เป็นที่รวมเสียงแห่งการพัฒนา เสียงบ่น และ ข่าวคราวการพัฒนาแบบ Real Time ลบคำที่ว่า "มักทำการหมกเม็ด" ให้สิ้น 2. ftp://ftp.opentle.org/people เป็นที่เก็บรวบรวม packages ที่ Contributors จัดทำขึ้น โดยจะแยกออกจาก ที่เก็บหลักดังที่เคยทำมาแต่เดิม ซึ่งเปิดโอกาสให้มีการทดสอบได้อย่างกวางขวางมากขึ้น เมื่อ packages นั้นๆ เชื่อถือได้แล้วก็จะเอาไปยังที่เก็บหลักตามความเหมาะสม คร่าวๆ แบบนี้ก่อน วันนี้รวมขุนพลทั้งเก่าทั้งใหม่ได้กว่า 8 คน ซึ้งจริงๆ ตอนนี้ก็อยากได้ยินเสียงจากท่านทั้งหลายที่หลวมตัวมาอ่านบ้างละครับ ยินดีรับฟังและปฏิบัติตามด้วยความเคารพ

ความคิดเห็น

Isriya กล่าวว่า
ผมว่าระดับพี่ไม่หมกเท่าไรหรอก ยังมีการสื่อสารกับ community บ้าง

แต่ระดับสูงๆ หน่อยที่มีอำนาจตัดสินใจ (อย่าง ดร. วิรัช) อยากให้มาเขียนหน่อยน่ะครับ จะได้รู้ว่าเบื้องบนเค้าตัดสินใจกันยังไง คนนอกอย่างผมไม่เคยรู้เลยอ่ะ (แถวบ้านเรียกหมกเม็ด)
kamthorn กล่าวว่า
ไฟเขียวว๊อย ไฟเขียว ไม่มีเหลือง
ทีแรกก็ว่าจะช่วยทำละ แต่มาป่วยเสียก่อน
ก็ดีแล้วละที่ทำออกมาได้ขนาดนี้ :-)
ไม่ระบุชื่อ กล่าวว่า

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

อิไซกูนิ...

บทเพลงท้องถิ่นอีกเพลงที่ฟังแล้วให้ความหมายดีอีกเพลงที่ผมชอบคือเพลง "อิไซกูนิ" อย่าเพิ่งนึกว่าเป็นภาษาญี่ปุ่นนะครับ มันเป็นภาษาใต้ บ้านผมเองแฮะๆ แปลง่ายๆ ว่า "จะทำใมฉันละ" ประมาณว่าเรื่องของฉันอย่ามายุ่ง.. เนื้อร้องบางคำผมก็ให้ความหมายไม่ถูกเหมือนกันไม่แน่ใจว่าเป็นสร้อยหรือเป็นคำพูดจริงๆ เพราะท้องถิ่นใต้แต่ละที่พูดไม่เหมือนกัน... ลองอ่านเนื้อร้องข้างล่างดูครับ บทเพลง อิไซกูนิ.... ศิลปิน ด้ามขวาน จบละปริญญาโท โอ้โฮ.. ยังไม่มีสามี จบละปริญญาตรี มีลูกสามสี่คน มันเกี่ยวอะไหรละไอ้พวกจากัวมีผัวหม้ายผัว เรื่องส่วนตัวกู จบตรีจบโท ก็มีความรู้ใช่หนักหัวสูไอ้พวกเสือกเมือง จบปริญญาโทร โอ้โฮ.. ได้ทำงานดีๆ จบปริญญาตรีไม่เป็นกะหรี่แน่นอน มันเกี่ยวอะไหรละไอ้พวกหัวอี กระหรี่หม้ายหรี่ศักดิ์ศรีของกู จบตรีจบโทก็มีความรู้ ใช่หนักหัวสูไอ้พวกเสือกเมือง เอาได้เรียนเป็นหลัก ไอ้หย๊ะ... เรื่องรักไม่เคยรู้สึก อ่านๆ เขียนๆ ดึกๆ อะดึก อึดื่น คนไม่กล้าทัก... มันเกี่ยวอะไรอ๊ะไอ้ะพวกจันทร์หวัน วันแต่ละวันมันไม่ทำไหร เรื่องของชาวบ้านมาจุ้นจ้านทำใม เรื่องของหัวใจ อิไซกูนิ จบละปริญญาโท โอ้โฮ.. ยังไม่

ผีเสื้อกับดอกไม้...

เป็นอีกเพลงที่ฟังแล้วชอบมาก..ความหมายมันดีนะ ไม่รู้จะหาฟังกันได้ไหม ผมมีให้แต่เนื้อร้อง... บทเพลง: ผีเสื้อกับดอกไม้ ศิลปิน: เคียส ซ้ำจนแทบจะตายก็ยังมิวายจะหลาบจำ ถูกคนเขาทำใจดำออกอย่างนั้น ยังเชื่อคำยังเชื่อใจยังไม่จำ ก็ใจมันดื้อดึงมันขัดขืนอยู่ร่ำไป ก็ใจมันอ่อนไหว อ่อนแอเมื่อพบเจอ ผีเสื้อตัวน้อย ล่องลอยอยู่ในฝัน ชื่นชมกับความหวาน และสีสันสวยงาม โดยไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีพิษ โดยไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีภัย ร้องเธอเธอร้องไป ในเมื่อหัวใจมันโง่เอง ปล่อยน้ำตาไหลละเลง เป็นบทเพลงแห่งความเขลา เพื่อตอกย้ำให้กับใจยังไม่จำ ก็ใจมันเลอะเลือน ด้วยรักเพราะงมงาย จิตใจจึงวุ่นวายอ่อนแอไร้เหตุผล ผีเสื้อตัวน้อย ล่องลอยอยู่ในฝัน สักวันจะหล่นลง ปีกคงจะร่วงโรย ผีเสื้อตัวน้อย ล่องลอยติดตามฝัน สักวันจะหล่นดิน สูญสิ้นทั้งวิญญา โดยไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีพิษ โดยไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีภัย เจ้าไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีพิษ เจ้าไม่รู้ว่าดอกไม้นั้นมีภัย ก็ใจมันเลอะเลือน ด้วยรักเพราะงมงาย จิตใจจึงวุ่นวายอ่อนแอไร้เหตุผล ผีเสื้อตัวน้อย ล่องลอยอยู่ในฝัน สักวันจะหล่นลง ปีกคงจะร่วงโรย ผีเสื้อตัวน้อย ล่องลอยติดตามฝัน สักวันจะหล่นดิน